วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

Hot - Hot - Hot .. มันมากันแล้ว ..

กาลครั้งก่อน .. เมื่อไม่นานมานี้ .. หลังจากไม่มีอะไรทำ ก็เลยมาหาเรื่องจับผิดกล้องตัวเองซะอย่างงั้น สงสัยว่างมากกกก ที่จริงแล้วมันมิได้เป็นเช่นนั้นหรอก หากแต่ว่าหลังจากเอากล้องไปถ่ายงานช่วงปีใหม่มา 2 – 3 งานแล้วก็เอารูปมาเลือกเพื่อเตรียมจะเอาเข้า PS จะได้ edit ให้เรียบร้อยจะได้ส่งเค้าซะที ปรากฎว่านั่งๆ เลือกๆ อยู่ก็ลอง zoom เข้าเพื่อเช็คว่าโฟกัสเข้าตรงจุดที่ต้องการหรือไม่ แต่มันไปสะดุดเอาจุดกากบาทสีขาวลอยเด่นชัดเจนขึ้นมา เลยสงสัยว่าเอ๊ะ .. นั่นอะไร? ไหนกัน .. ก็จุดสว่างตรงนั้น .. อ๋อแสงนั่นมันน่าจะเป็น Hot Pixel นั่นไง อ๊ะๆ แล้วมันโผล่มาได้อย่างไร? เอาล่ะสิ .. งานเข้าแล้วล่ะเรา ..


มองเห็นกันหรือเปล่า? .. ไอ้เจ้า Hot Pixel เนี่ยะ ..

ด้วยความสงสัย ขอทดสอบให้แน่ใจอีกสักครั้ง เช็คให้เห็นกันจะจะไปเลย หยิบเจ้าน้องชาย D5000 ขึ้นมา หมุนไปที่โหมด P ปรับ ISO ไปที่ Lo 1.0 แล้วก็ แช๊ะๆๆๆ รัวเข้าไปกลายเป็นเรื่อง ชัตเตอร์ กดติด Hot Pixel ไปซะอย่างนั้น .. เฮ้อ .. เปิดภาพดูในกล้องกด Zoom ๆๆๆๆ เข้าไปจนสุดแล้ว out ออกมา 1 ครั้ง ผลปรากฎว่า .. มันมากันแล้ว .. มากันจิง รัยจิง ไม่ต้องใช้ตัวแสดงแทน 1 จุด ณ ที่เก่า ทุกเวลา ลองอีกๆๆ ให้ครบทุกความเร็วชัตเตอร์ ทุก F.Stop ทุก ISO แหมมมม .. มันช่างบาดหัวใจจริงหนอ เรียกได้ว่าไม่เห็นถ้าไม่ขยายสุดๆ แต่มันจิ๊ดๆ เพราะเรารู้อยู่แก่ใจ


เอ้า .. ดูกันอีกที .. อยู่ตรงนี้นี่เอง ..


แฟนๆ ที่ติดตามชมบอกว่า .. ขยายให้ดูหน่อยดิ กรูส์สายตาไม่ค่อยดี(ว่ะ) ..

แต่จะว่าไปแล้วนะ จริงๆ มันก็แก้ไขไม่ได้ยากเย็นเลย ถ้าเรามอบให้เป็นหน้าที่ของ PS ก็จะลบร่องรอยของเจ้า Hot Pixel นี้ให้หายไปได้โดยพลันมันช่างง่ายดายเฉกเช่นกับการปอกกล้วยเข้าปากเลยทีเดียวเชียว แต่นั่นก็เป็นเพียงการแก้ไขที่ output แล้ว ส่วนถ้าจะแก้ไขที่ Hardware ในกล้องก็คงต้องส่งเข้าศูนย์ ให้ช่วยทำการ remapping ให้ก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง แต่เรื่องของเรื่องเจ้าน้องชาย D5000 ของผมมันก็หมดประกันไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปลายเดือน 9 ปีที่แล้ว(2553) ซึ่งตอนนั้นผมเองก็เอาไป maintenance ที่ศูนย์มาแล้วก่อนหมดประกัน สงสัยอาจจะเอาไปถ่ายเล่นที่เมืองกาญจน์ที่ไปเล่นเขียนไฟกันหรือเปล่า? เพราะต้องใช้เวลาเปิด speed shutter นานๆ ในแต่ละภาพเนี่ย (อันนี้สันนิษฐานเอาเองนะ .. อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ไม่กล้า confirm) แต่ทั้งหมดทั้งหลายก็อย่างที่บอกนั่นแหละครับ มันก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเลย เรื่องนี้จะไม่กระทบกับเราถ้าเราปล่อยวางมันซะ มันก็ไม่ได้ทำให้ภาพเสียหายไปสักเท่าไหร่ จะว่าไปก็แค่ 1 pixel ใน 12 ล้าน pixel ด้วยซ้ำ มองโลกในแง่ดีซักหน่อย เหลืออีกตั้ง 11 ล้าน 9 แสน 9 หมื่น 9 พัน 9 ร้อย 9 สิบ 9 pixel ที่ยังใช้ได้ดีนี่นา


เข้า PS ออกมาก็มองไม่ออกแล้ว .. โดยมากเวลาย่อรูปไปลงเวบเนี่ยมันก็จะหายไปเองอยู่แล้วล่ะ ..

เฮ่ยยยย .. แล้วคุณเมิงจะมาเขียนให้พวกกรูส์อ่านทำไมว๊ะเนี่ย .. หลอกให้อ่านมาตั้งนานหว่ะ .. ก็แค่อยากจะมาบอกว่า อย่าไปใส่ใจอะไรให้มันมากไปเลยครับ กับไอ้เรื่อง Hot Pixel เนี่ย มัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาไปจับผิดกล้องของตัวเอง เครียดไปฉี่เหลืองเปล่าๆ ถ่ายรูปไม่สนุกน๊าสิบ่อกให่ เอาเวลาว่างที่มัวมาสนใจเรื่องพวกนี้ ไปออกทริปถ่ายรูปให้สุขสำราญ บันเทิงเริงใจจะดีกว่ายังไงล่ะคร๊าบบบบ .. พี่น้องงงงงง ..

 

เขียนเมื่อ : วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ.2554 เวลา 19:38 น. GMT+7 THAILAND
ผู้เขียน : Tombass

วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554

ไปเที่ยวชะอำ-หัวหินมา .. ไม่ได้เหยียบน้ำทะเลเล๊ยยย ..

ได้วันหยุดมาเพิ่ม 1 วัน คือในวันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2553 ก็เป็นโอกาสอันดีในการออกไปพักผ่อนอย่างเช่นคนธรรมดากับเค้าบ้าง ตื่นมาสายๆ วันอาทิตย์ก็จัดการทำธุระปะปังที่ยังคั่งค้างอยู่จนเสร็จเรียบร้อยก็ปาไปครึ่งวันได้แล้ว ก็เลยจัดการเก็บเสื้อผ้าตระเตรียม trip set เอาใส่เป้สะพายหลังให้เรียบร้อย ตรวจเช็คกล้องพร้อม แบตพร้อมชาร์จเต็ม รถพร้อม คนพร้อมครับ ขับลุยเดี่ยวเหมือนเช่นเคย


ขอแนะนำ .. เพื่อนร่วมทาง ..

เริ่มออกเดินทางกันในเวลา 13:10 น. ใช้เส้นทางจากบางกะปิ มุ่งหน้าถนนรามคำแหง เลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 9 เพื่อไปขึ้นทางด่วนที่ด่านพระราม 9 วิ่งยาวข้ามสะพานแขวน มุ่งหน้าลงสู่ถนนพระราม 2 ผ่านมหาชัย ผ่านแม่กลอง สุดทางเลี้ยวซ้ายที่แยกวังมะนาว จากนั้นมุ่งหน้าตรงเข้าสู่เขาย้อย ต่อเนื่องผ่านเมืองเพชรบุรี ผ่านท่ายางแล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าชะอำ และแล้วก็มาถึงจุดหมายตามกำหนดที่สี่แยกชะอำในเวลา 16:00 น. ได้ระยะทางตามหลักกิโลเมตรอยู่ที่ 205 พอดีๆ

เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกชะอำ มุ่งหน้าลงสู่ชายหาดชะอำที่คุ้นเคย ถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายขับตรงไปเรื่อยๆ มองหา 7-11 เพื่อแวะซื้อเสบียงเล็กน้อย เพราะต้องกินยาด้วย อีกทั้งก็เริ่มง่วงแล้วด้วย (ปกติเป็นคนนอนเช้าตื่นบ่าย วันนี้ตื่นเร็วเลยง่วงซะแล้ว) ก็เลยจัดการกินขนมปังรองท้องแล้วกินยาสำหรับมื้อเช้า (กินซะตอน 4 โมงเนี่ยแหละ) แล้วนอนพักก่อนซักชั่วโมงนึงในรถนี่แหละ เดี๋ยวตื่นมาค่อยจัดการหาที่พัก ไม่ต้องรีบร้อน มีห้องว่างอยู่แล้วเพราะเป็นวันอาทิตย์ชาวบ้านชาวช่องเค้ากลับกันหมดแล้วนี่


หิวเมื่อไหร่ .. ก็แวะมา ..

ตื่นมาอีกที 6 โมงเย็น ขับรถหาห้องพักได้ห้องที่ชะอำ วิลล่า ซัน ราคา 400 บาท ห้องแอร์ มีเคเบิ้ลทีวีให้ดูแก้เหงา ถูกดี อยู่ใกล้ 7-11 ด้วย เข้าห้องพักได้ก็อาบน้ำสระผม สดชื่นดีแล้วก็เปิดทีวีดูเป็นช่องเคเบิ้ลท้องถิ่น มีช่องหนังให้ดูเยอะดี ดูจบไปสองเรื่องก็เลยออกไปซื้อข้าวกล่องที่ 7-11 กินซัก 2 กล่องด้วยความหิวซัดเรียบแล้วกินยาสำหรับมื้อเย็นเรียบร้อย นอนดูหนังเพลินๆ ว่าจะลงไปดูบอลข้างล่างแต่แมทช์หงส์กับฟูแล่มเลื่อนเตะเพราะที่อังกฤษหิมะตกหนัก เลยไม่ลงไปดูแระ อีกทั้งยังง่วงด้วย หลับไปซะดีกว่า

ประมาณ 3 ทุ่มก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไกด์ส่วนตัวโทรมาชวนไปเที่ยวหัวหิน ตอนดึกอย่างนี้แล้วก็บอกไม่ไปดีกว่า เลยบอกว่าทำธุระเสร็จกลับมาแล้วถ้าจะให้ไปรับก็โทรมาแล้วกัน ตี 2 กว่าๆ เลยต้องออกไปรับไกด์มานอนด้วยกัน เพื่อพรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางไปเที่ยวหัวหินกันได้เลย ไม่ต้องมารอนัดเจอกันให้เสียเวลาอีก


ภาพจาก http://www.chaambeach.com/food/detail.asp?id=Linkfood003

สายๆ วันจันทร์ตื่นมาสดชื่นตัวเบาสบาย ออกไปกินข้าวกลางวันที่ร้านนิพนธ์ ริมทะเลชายหาดชะอำนั่นแหละ ไกด์แนะนำเองเลย อื้มมม .. อร่อยดีโดยเฉพาะห่อหมกทะเล กุ้งหอยปูปลา ปลาหมึกเพียบ หลนปูทะเลก็ใช้ได้ กระพงราดพริกก็สดอร่อยเนื้อยังเด้งดึ๋งๆ อยู่เลย ข้าวเปล่าอีก 2 จาน ค่าเสียหาย 414 บาทเท่านั้นเอง ไม่แพงๆ ใครไปชะอำอย่าลืมแวะไปชิมกันนะ เปิดทั้งวันไม่ได้ค่าโฆษณาหรอกนะเห็นว่าอร่อยแล้วก็ไม่แพงเลยมาแนะนำให้ลองกันดู

อิ่มท้องกันทั้งคู่ แล้วก็ได้เวลาเดินทางสู่หัวหิน ต้องแวะไปห้างมาร์เก็ตวิลเลจก่อนเพื่อเข้าหาอินเตอร์เน็ตใช้เพื่อเช็คอัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงออกจากห้างประมาณบ่าย 3 ไปถ่ายรูปเล่นกันที่สถานีรถไฟหัวหิน อันเป็นสถานที่ที่ใครๆ ต้องไปถ่ายรูปคู่กับป้ายสถานี หากใครไม่ได้ไปเหมือนยังมาไม่ถึงหัวหิน .. เค้าว่ากันอย่างนั้น

 

 

ออกจากสถานีรถไฟหัวหิน ก็มุ่งหน้าไปไหว้พระกันที่วัดห้วยมงคล ไม่เคยรู้สักนิดว่าอยู่ไกลจากเมืองหัวหินร่วม 20 กิโลเมตร เพิ่งไปครั้งแรกจริงๆ ได้ไปสักการะและเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ขององค์หลวงปู่ทวด ความที่ไปถึงในเวลาบ่ายคล้อยมากแล้วไม่สามารถเก็บภาพมุมต่างๆ ได้มากเท่าไหร่ กอรปกับเวลาที่มีน้อยคิดว่าคงต้องมีครั้งหน้าที่จะกลับมานมัสการหลวงปู่อีกครั้งอย่างแน่นอน

 

ออกจากวัดห้วยมงคลได้ก็มุ่งหน้ากลับหัวหินเพื่อจะไปจุดชมวิวบนเขาหินเหล็กไฟ แต่ก็ไม่ทันเค้าปิดซะก่อน จะไปเขาตะเกียบก็มืดแล้วเลยตัดสินใจขับรถกลับมาชะอำดีกว่า แพลนที่วางไว้ว่าจะกลับเย็นนั้นคงต้องเลื่อนไปกลับวันอังคารแทนจะปลอดภัยกว่า เลยเข้าไปหาที่พักกันที่ริมหาดอีกเช่นเคย คราวนี้ได้ที่ ไวท์ โฮเต็ล อยู่ติดริมหาดเช่นเดิม ราคา 400 บาท แอร์ เคเบิ้ลทีวี ตู้เย็น สองเตียง คุ้มจริงๆ แม้ว่าจะดูเก่าไปสักนิด แต่เทียบกับราคาแล้วนับว่าสมน้ำสมเนื้อ รู้สึกพอใจกับห้องพักมากว่าที่แรกก็แล้วกัน

ตกเย็นออกไปกินหมูกระทะแบบไม่บุฟเฟ่ท์กันที่ใกล้ๆ โรงพยาบาลชะอำ กินกันสองคนหมดไปประมาณ 300 บาท ดูๆ แล้วก็ไม่แพงเท่าไหร่ อิ่มอืดกลับมานอนผึ่งพุงดูหนังเคเบิ้ลกันเพลินๆ หลับไปไม่รู้ตัว

เช้าวันอังคารไกด์ส่วนตัวขอตัวกลับไปทำงานก่อนตั้งแต่เช้า ตื่นมาก็อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็ออกเดินทางจากชะอำประมาณ 10 โมงเศษ เพราะต้องรีบกลับกรุงเทพให้ทันนัดกับหมอตอนบ่ายโมง แวะพักที่ 7-11 ในปั๊ม ปตท.บางเค็มตอน 11 โมงเพื่อจะหาอะไรรองท้องและกินยาตอนเช้า แล้วยิงยาวเข้ากรุงเทพฯ มาถึงทันนัดตอนบ่ายโมงพอดี ตรวจเสร็จรับยาเรียบร้อยกลับถึงบ้านเกือบ 4 โมงเย็น ยังมีเวลาเหลือให้นอนได้อีกซัก 2 ชั่วโมงแล้วก็ตื่นอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงานกันต่อ

ทริปนี้ไปพักผ่อนจริงๆ เที่ยวจริงๆ ก็ได้ไม่กี่ที่เอง ยังไม่ทันได้ลงไปเดินลุยน้ำทะเลเล่นซะด้วยซ้ำ แต่ก็รู้สึกพอใจนะ ได้มาชาร์จแบตให้ตัวเองและให้ของขวัญคริสต์มาสกับตัวเองไปพร้อมกันด้วยเลย เดี๋ยวต้นเดือนมีนาคมมีแพลนไปเที่ยวเชียงใหม่ซัก 4 วัน เพราะจองโปร 0 บาทของหางแดงได้ ยังไม่รู้จะได้ว่างไปหรือเปล่าเลย ถ้าโชคดีก็จะมีทริปมาฝากให้ได้อ่านกันสนุกๆ นะ

 

เขียนเมื่อ : วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ.2554 เวลา 22:37 น. GMT+7 THAILAND
ผู้เขียน : Tombass