วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

“วันดี-เดย์ !!! : 19 พฤษภาคม 2553” .. จบซะที .. เฮ้อ ..

และแล้วการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ก็จบลงเสียที พร้อมกับการสังเวยการชุมนุมแบบความสงบ อหิงสาของพวกเค้าด้วย Central World, ไทยทีวีสีช่อง 3 อาคารมาลีนนท์, โรงภาพยนตร์ สยาม, Center One ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมกับการวางเพลิงเผาบ้านเผาเมืองอีกหลายจุด รวมไปถึงตามต่างจังหวัดทางภาคเหนือและอีสาน สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจและความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ที่เป็นผู้บริสุทธิ์ มีการสั่งเผาบ้านเมือง สั่งยิงเจ้าหน้าที่พยาบาลและเจ้าหน้าที่กู้ภัย หน่วยดับเพลิง ผู้สื่อข่าว อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย กาชาดสากล ประชาชนทั่วไป รวมไปถึงผู้ชุมนุมเองด้วย ว่าไปแล้วก็เป็นการสั่งยิงไม่เลือกหน้า เพื่อความสูญเสียให้แก่บ้านเมืองให้มากที่สุด ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม จนรัฐบาลต้องประกาศ CURFEW ในพื้นที่เสี่ยงอันตรายในหลายๆ จังหวัด ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ตั้งแต่เวลา 20:00 น. ถึง 06:00 น. และต่อเนื่องไปอีกในวันที่ 20-22 พฤษภาคม 2553 ตั้งแต่เวลา 21:00 น. ถึง 05:00 น. พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ทหาร สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำตวจ อาสามัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และอีกหลายหน่วยงาน ออกตรวจตรา ตั้งด่านสกัดผู้ต้องสงสัย เพื่อเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในทุกพื้นที่ และล่าสุดวันนี้ ได้ประกาศ CURFEW เพิ่มขึ้นอีก 2 วันในวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2553 เวลา 23:00 น. ถึง 04:00 น. อีกด้วย

 
(ภาพจากมติชน ออนไลน์)

ส่วนการสั่งการเผาบ้านเผาเมืองนั้น ไม่ว่าใครเป็นคนสั่ง คนไทยทุกคนก็คงจะรู้เช่นเห็นชาติอยู่แล้วว่ากระกระทำเช่นนี้ คงไม่ใช่คนที่หวังดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองแน่นอน อีกทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมืองบางพรรค ที่พยายามดำเนินการตามใบสั่ง พยามยามออกมาทางหน้าจอโทรทัศน์เพื่อแก้ตัวไปต่างๆ นาๆ ว่าไม่เกี่ยวกับการชุมนุม ช่างกล้าที่จะออกมาพูดโดยเฉพาะ “สส.ดาราหน้าม่าน” ที่ออกมาเดินเกมฟ้องนี่โน่นนั่น ฟ้องพ่อ ฟ้องแม่ ฟ้องครู ฟ้องใครต่อใคร ลามไปถึงกับจะฟ้องคนนอกบ้าน อายเค้าไม๊? ทะเลาะกันเองแล้วยังจะเอาเรื่องในบ้านไปให้คนอื่นตัดสินให้ อยากจะขอความเห็นใจจากคนอื่น ถ้าไม่อยากเป็นคนไทยก็ออกไปอยู่นอกบ้าน ไปอยู่กับคนอื่นเลยดีกว่าไม๊? เหมือนที่บางคนเป็นอยู่ตอนนี้ไงล่ะ

 
(ภาพจาก http://www.chaoprayanews.com)

แกนนำที่เข้ามอบตัวจากการจนมุม เอ๊ย .. การชุมนุม กำลังรอเข้ากระบวนการเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุม แกนนำทั้งหมดคงปฏิเสธความรับผิดชอบเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะเป็นผู้นำมวลชนเข้ามาชุมนุม เป็นผู้นำความเดือดร้อนเข้ามาสู่คนเมืองหลวง โดยอ้างสิทธิความชอบธรรมเพื่อเรียกร้องสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่จะริดรอนสิทธิของคนอื่นก็ช่างมัน คนอื่นต้องยอมพวกเค้าเพราะพวกเค้ามาเรียกร้องประชาธิปไตย เค้าเป็นคนส่วนใหญ่มีมวลชนเป็นล้านคน เป็นแดงทั้งแผ่นดิน ส่วนคนที่เหลืออีก 50-60 ล้านคนของประเทศเป็นคนส่วนน้อยจะต้องยอมเค้า (อืมมม .. ว่าแต่เมืองไทยมีพลเมืองเท่าไหร่กันน๊า?)

 
(ภาพจาก http://www.manager.co.th และ PDN)

ส่วนพวกแกนนำกลุ่มหัวรุนแรงอย่าง “นักร้องบ้าพลัง หน้าด้านไม่พอ” กับ “ดาราทหารฮอลีวู้ด อีสานบ้านเรา” ควงแขนกันหนีหัวซุกหัวซุนก่อนแกนนำที่เหลือประกาศยุติชุมนุมซะอีก นี่ล่ะหนาพอถึงเวลาต้องโชว์เดี่ยวก็กลัวลนลาน แต่เวลาออกโทรทัศน์ก็เบ่งกล้ามโชว์พลังกันน่าดู พ่นน้ำลายไปทั่วจอ ไม่เห็นว่าจะมีภาวะผู้นำซักคน ไม่ได้กล้ายอมรับกับผลกรรมที่ตัวเองก่อไว้ซักคน แล้วยังมีหน้ามาอ้างเรื่องกลัวไม่มีความปลอดภัย นึกถึงสิ่งที่ทำกับคนอื่นให้เค้าต้องเสียสิทธิเสรีภาพความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินบ้างหรือเปล่า? น่าจะรู้สึกสำนึกถึงความผิดที่กระทำบ้างก็ดีนะ จะได้บรรเทาบาปกรรมที่ทำต่อคนไทยทั้งชาติให้เบาบางลงได้บ้าง ส่วนนักฆ่าชุดดำที่คอยปฏิบัติการเยี่ยงกองโจรที่มีอาวุธสงครามครบมือ เพียบพร้อมด้วยยุทโธปกรณ์ที่ส่งกำลังสนับสนุนจากต่างชาติ คอยทำการก่อวินาศกรรมในจุดต่างๆ โดยมุ่งหวังให้ก่อความสูญเสียกับเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั่วไป

 
(ภาพจาก http://talk.mthai.com/topic/58546 และ http://mblog.manager.co.th)

ส่วนอดีตคนไทย สัญชาติยุโรปใหม่ถอดด้าม กับวาทะอาฆาตแค้นต่อคนไทยทั้งชาติที่ว่า “ผมอยู่ไม่ได้ ใครก็อยู่ไม่ได้” แสดงถึงเจตนาร้ายต่อประเทศ จ้องจะทำลายบ้านเมืองของเรา กับคำประกาศของแกนนำคนหนึ่งที่บอกว่า “มึงยึด กูเผา .. เผาไปเลยครับพี่น้อง ใครจะจับมาจับผมนี่” นี่มันส่อให้เห็นเจตนาของผู้ที่พูดที่จะมีการเตรียมการกระทำสิ่งเลวร้ายต่อบ้านเมือง อันพึงที่จะพิจารณาเอาจากการกระทำการหลายอย่างที่ผ่านมาอันเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ทั้งแกนนำบนเวทีบริเวณที่ชุมนุม พรรคการเมืองไร้จรรยาบรรณ ผู้ก่อความไม่สงบที่ใช้อาวุธ และการใช้สื่อโฆษณาชวนเชื่อทั้งโทรทัศน์และวิทยุชุมชน อีกทั้งการเดินเกมจากต่างประเทศโดยอดีตคนไทยที่ตั้งทนายฟ้องประเทศไทย

ทำให้เล็งเห็นไปถึงเป้าหมายของผู้ที่คิดการนี้ ที่ต้องการจะล้มล้างสถาบันอันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย ไม่ว่าความคิดและการกระทำแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด เราคนไทยทุกคนจะยอมพลีชีพเพื่อปกป้องรักษาพ่อหลวงของเรา ใครที่คิดมาล้มล้างหรือทำร้าย จะต้องถูกเพลิงนรกเผาผลาญมันและครอบครัวให้ชิบหายวายวอดไม่ได้ผุดได้เกิด จิตใจทำด้วยอะไรหนอ? ทำร้ายได้แม้แต่แผ่นดินที่มันเกิด ทำร้ายได้แม้แต่พ่อที่เป็นที่รัก


(ภาพจากเนชั่น กรุ๊ป)

หลังจากนี้ ก็ได้แต่หวังว่าสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เราคนไทยทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อคืนความสดชื่น ร่มเย็นกลับมาสู่ประเทศไทยของเรา ช่วยกันเก็บกวาดเช็ดถู และแก้ไขในในสิ่งที่ได้ทำผิดพลาดมหันต์อันเป็นบทเรียนราคาแพงในใจคนไทยครั้งนี้ ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี คนไทยยังคงมีน้ำใจ รู้รักสามัคคี เพื่อก้าวผ่านความเจ็บปวดที่เกาะกุมในหัวใจ เราคนไทยจะจดจำบทเรียนครั้งนี้และจะไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำสอง เราจะกลับมาร่วมกันร้องเพลงชาติไทย ให้ดังกระหึ่มไปทั่วโลก และประกาศให้รู้ทั่วพื้นปฐพีนี้ว่า จะไม่มีทางที่ใครจะมาแบ่งแยกความเป็นพี่น้องร่วมชาติของเราได้อีกต่อไป

เราคนไทยทุกคนจะกลับมา พร้อมกับรอยยิ้มสยาม ที่กว้างกว่าเดิม

“คนไทยรักในหลวง คนไทยรักชาติ”

 

 

เขียนเมื่อ : วันอาทิตย์ ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2553  เวลา 17:50 น. GMT+7 ประเทศไทย
ผู้เขียน : Tombass

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น