วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

โชคร้ายจริงๆ .. ขับอยู่ดีๆ ก็มีคนเมาขับมาชน ..

หลังจากกลับมาจากเมืองกาญจน์ อาการท้องเสียก็ยังไม่หายและดูเหมือนว่าอาการจะกำเริบมากขึ้นอีกด้วย เจ้ายาธาตุน้ำขาวที่กินอยู่สงสัยจะสู้ไม่ไหวและที่สำคัญบังเอิญมันหมดเสียแล้วตั้งแต่อยู่ที่ทำงาน ขากลับบ้านคงต้องแวะซื้อเพิ่มเสียหน่อย ก็เลยขับเลยไปเข้า 7-11 ที่ซอยหลังบ้าน ยืนปรึกษากับเภสัชกรอยู่พักนึงเรื่องยาฆ่าเชื้อในลำไส้ แต่ก็แนะนำมาเป็นยาเคลือบกระเพาะ .. งงๆ อยู่เหมือนกัน ก็เลยซื้อแต่ยาธาตุน้ำขาวที่เคยกินอย่างเดียว เดี๋ยวถ้าพรุ่งนี้ไม่ดีขึ้นจะไปหาหมอเสียหน่อยดีกว่า

ซื้อยาเสร็จเรียบร้อยก็ขับรถกลับบ้าน มาตามถนนในซอยก็เห็นรถคันหนึ่งขับตามหลังมาเร็วมากยังมาขับจี้ท้ายรถเราอีก ยังคิดอยู่ว่า (เมิง)จะรีบไป(ตายห่_)ที่ไหนกัน (ว๊ะ)? ถนนเป็นซอยใหญ่ของหมู่บ้านแต่ก็ไม่ใช่ถนนใหญ่ ถึงแยกออกถนนใหญ่ เลี้ยวขวาออกมาไม่เร็วหรอกเพราะบ้านอยู่ถัดจากแยกไป 2 ซอยแค่นั้นเองก็เลยมาช้าๆ เปิดไปเลี้ยวขวาอีกครั้งเพื่อเตรียมเลี้ยวขวาเข้าซอย จังหวะกำลังเคลื่อนตัวเลี้ยวเข้าซอย ยังไม่ทันจะเข้าซอยบ้านก็ … โครมมมม .. เพล้ง .. กรอบแกรบๆ .. ซัดท้ายรถเราซะอย่างงั้น เป็นถนนสี่ช่องทางสวนกัน ข้างละสองช่องทางแท้ๆ เพิ่งเลี้ยวขวาออกจากแยกมาเหมือนกันก็ยังจะขับเร่งซะเร็วอีก

เลยพารถเราเข้าซอยไปจอดไว้ปากซอย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำสองแล้วก็ลงมา คู่กรณีจอดอยู่อีกฝั่งถนน บังโคลนหน้ายุบประตูฝั่งคนขับเปิดไม่ได้ต้องลงอีกฝั่งนึง ลงมาเดินเมาอ้อแอ้มาเลย ให้โทรเรียกประกันดันโทรไปบอกเพื่อน ขอใบขับขี่ก็มาบอกว่า ไม่ต้องมาพูดกับผมเลยเรื่องขอหลักฐาน อ้าว .. เฮ้ยยย .. จะเอายังไงกับเค้าดีล่ะเนี่ย โทรบอกตำรวจก่อนดีกว่า 191 เลยครับท่าน พอบอกให้ไปเอาหลักฐานอะไรมาเตรียมไว้ก็ไปหาอันโน้นแต่ได้อันนี้ ต้องเอาเบอร์มาโทรหาประกันของ(เค้า)ให้ ช่วยกันโทรกันไป ยังมีหน้ามาบอกว่าขับมาตั้ง 20 ปีเพิ่งมาชนครั้งนี้ ไม่อยากให้ชนหรอก มันเป็นอุบัติเหตุ ช่วยไม่ได้จริงๆ เฮ้อ .. เบื่อข้ออ้างแบบเข้าข้างตัวเองแบบนี้จริงๆ ถ้าคุณไม่เมา ขับด้วยความระมัดระวัง มีสติทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัย ขับช้าลงสักนิด ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุก็มีน้อยลง จะได้ไม่ต้องไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ที่ใช้ถนนคนอื่น

ยังดีที่เป็นรถใหญ่เหมือนกัน ถ้าไปชนมอเตอร์ไซค์เข้าล่ะ แล้วคนขับหรือคนซ้อนเกิดเจ็บหนักหรือถึงขั้นเสียชีวิตขึ้นมาล่ะ คนที่เค้ารักคุณ ที่รอคุณอยู่ที่บ้านคงต้องไปเยี่ยมหาคุณในสถานจองจำแทนซะเปล่าๆ ครอบครัวของผู้ที่สูญเสียจะเศร้าโศกเสียใจขนาดไหน พ่อแม่หัวใจสลายที่ต้องเสียลูกไปเพียงเพราะว่าคุณเมา เพราะความประมาทของคุณ ส่วนครอบครัวของคุณล่ะจะเป็นเช่นไรต่อไป เมียลูกจะต้องลำบากอีกแค่ไหน จะอยู่อย่างไรถ้าหัวหน้าครอบครัวต้องติดคุกติดตะราง ผมยังมองไม่เห็นข้อดีแม้เพียงสักข้อเดียวของการที่คุณเมาแล้วขับรถเลย ซึ่งมีแต่ส่งผลเสียร้ายแรงกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ความประมาทไม่เคยสร้างสิ่งดีให้กับคุณแม้แต่น้อย แต่ทำไมคุณยังรับมันเข้ามานั่งอยู่ในรถกับคุณด้วยล่ะ? รอประกันมาเคลม บันทึกคำให้การก็พูดไม่ค่อยจะรู้เรื่อง กว่าจะเสร็จเรื่องปาไปตี 3 ครึ่งได้มั๊ง ทั้งที่เหตุเกิดประมาณตี 1 ครึ่ง โอ้ว .. เสียเวลาจนลืมปวดท้องไปเลย เบื่อพวกคนเมาพวกนี้จริงๆ ทำไมกฎหมายไม่จัดการพวกนี้ให้เด็ดขาดบ้างนะ ปรับนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็มาสร้างความเดือดร้อนให้คนใช้ถนนที่เค้าปฏิบัติตามกฎ

โดยลำพังกำลังเจ้าหน้าที่ก็คงไม่เพียงพอที่จะตามจับกำกับดูแลคนพวกนี้ได้ทั้งหมดหรอก มันควรจะต้องเริ่มที่การปลูกจิตสำนึกโดยเริ่มที่ตัวเราเอง  แล้วก็ส่งต่อความคิดดีๆ ไปสู่คนรอบข้างและส่งต่อกันไปให้มากที่สุด ปลูกฝังระเบียบวินัย เคารพกฎจราจร รู้จักยำเกรงในกฎหมายช่วยกันทำให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ แล้ววันหนึ่งสิ่งดีๆ ก็คงจะเกิดขึ้นได้ในสังคมแห่งนี้

 

เขียนเมื่อ : วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2553 เวลา 12:29 น. GMT+7 THAILAND
ผู้เขียน : Tombass

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น