วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

Flash with Museum, Is it right?

โพสนี้ .. มีรูปน้อยหน่อยนะ เพราะเนื้อหาล่อแหลมมาก เกรงว่าอาจจะไปกระทบกระทั่งหรือไปละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลของผู้ที่ถูกกล่าวถึงก็เป็นได้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง จึงขออนุญาตลงรูปในโพสนี้น้อยๆ เอาเฉพาะที่ไม่พาดพิงถึงใครๆ ดีกว่า

ไม่ได้มาเขียนเรื่องนี้เพื่อบอกว่าอย่างนี้ถูก หรืออย่างนั้นผิด เพราะนั่นน่าจะต้องเป็นจิตสำนึกในการเลือกที่จะปฏิบัติตัวอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนั้น หากเรารู้อยู่กับตัวเองว่าสิ่งนั้นควร หรือมิควรกระทำเช่นใด ก็ย่อมจะควรปฏิบัติตนโดยเคารพต่อกฎระเบียบของแต่ละสถานที่อยู่แล้ว มิใช่มัวคิดแต่ว่า “เฮ้ย .. นิดเดียวน่า หรือไม่เสียหายอะไรนี่ หรือเจ้าหน้าที่เค้าไม่เห็นหรอก หรือ … หรือ … หรือ … ฯลฯ” ลองคิดดูนะ หากคิดแบบนี้สักสิบคนร้อยคน ก็คงไม่นิดแล้วล่ะ

คนที่ถือกล้อง มิใช่ว่าจะต้องได้รับสิทธิพิเศษใดๆ หรอกนะครับ อย่าไปคิดว่า ก็เรามีเจตนาดีอยากเผยแพร่ ทำไมต้องมาห้ามกันด้วย แต่ก็แค่อยากให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจถึงข้อจำกัดต่างๆ เอาไว้สักนิด อย่าให้เป็นบาปบริสุทธิ์เลย ความหวังดีอาจกลายเป็นผลร้ายได้

หากเราเข้าไปในสถานที่ที่เค้ามีข้อห้ามจำกัดชัดเจน แล้วเราเองนั้นก็เป็นคนที่มีจิตสำนึกที่ดี มีหัวใจรักในศิลปะ วัฒนธรรมและหวงแหนรักษาทรัพย์สมบัติอันทรงคุณค่าเหล่านั้น เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ต่อไปได้ นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีมิใช่หรือ?

แม้เราจะไม่ได้ภาพงามๆ มุมมองระดับเทพ แสงสว่างชัดเจน สวยจนเห็นทุกรายละเอียด แต่ยังรักษาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณี ให้ลูกหลานของเรามีที่ให้ได้เรียนรู้ต่อไป มันคงไม่น่าจะสียหายอะไรนักหรอกนะ หากอยากได้ภาพที่ชัดเจนหน่วยงานนั้นๆ ก็น่าจะมีการจัดเก็บไว้แล้วอย่างเป็นระบบ หากมีความประสงค์จะใช้งานภาพเหล่านั้น ก็น่าที่จะติดต่อโดยตรงจะดีกว่า

ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ก็จะมาจุดประกายความคิดแล้วมาเปิดประเด็นให้เถียงกันหรอกนะ ก็เพราะมีเรื่องอยากมาเล่าสู่กันฟัง ก็ได้ไปพบเจอกับหลายๆ คน หลากพฤติกรรม การกระทำมันส่อให้เห็นถึงระเบียบวินัยในตัวเอง การซื่อสัตย์ต่อตัวเองที่ต้องเคารพต่อกฎระเบียบธรรมเนียมปฏิบัติของสถานที่นั้นๆ วินัยคน .. สะท้อนวินัยชาติ

บางคนก็ดีแสนดี รู้ว่าผิดพลาดก็รีบแก้ไขโดยทันที บางคนหันไปบอกก็เข้าใจ เลิกกระทำและหันมาปฏิบัติตามกฎ แต่บางคนก็เลือกที่จะทำไม่สนใจกับป้ายเตือนหรือคำบอกกล่าวของเจ้าหน้าที่ ยังคงกระทำผิดกฎระเบียบไปโดยหน้าชื่นตาบาน ประหนึ่งว่าเป็นดั่งความภูมิใจของตระกูลทีเดียวเชียวหรีอนั่น เฮ้อ .. นี่คือ เรื่องจริงที่ผมได้พบเจอมา ..

สำหรับอีกขั้วหนึ่งที่เห็นต่าง ขอให้ผ่านเลยโพสนี้ไปซะ จะได้ไม่ต้องขุ่นข้องหมองใจกัน

โปรยหัวมาซะยาวเลยเรา มาเริ่มเรื่องกันดีกว่า เรื่องมันก็มีอยู่ว่า .. กาลครั้งหนึ่ง เมื่อวานนี้ ..

เมื่อวานนี้ .. วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ.2554 ชาวจีนจะรู้กันว่าเป็นวันเช็งเม้ง ต้องกลับไปไหว้บรรพบุรุษกัน ที่บ้านผมเองก็มีเชื้อจีนอยู่บ้างล่ะ ก็เดินทางไปไหว้บรรพบุรุษกับเค้าด้วย ไปกันแต่เช้าเพราะไหว้กันตั้งแต่ 9 โมง ถึงดำเนินสะดวกก็เกือบจะได้เวลาไหว้อยู่แล้ว แต่ก็ทันนะไม่ช้าไม่สาย เสร็จเรื่องก็ราวๆ 10 โมงกว่า ต้องมีการไปแวะเวียนตามบ้านญาติๆ เพื่อสนทนาแบบฉบับบ้านสวนพร้อมทั้งกินมื้อกลางวันร่วมกันตามประสาพี่ๆ น้อง ลูกๆ หลานๆ แบบว่าปีนึงก็จะได้เจอกันไม่กี่ครั้งเนื่องจากภาระหน้าที่ของแต่ละคนแต่ละครอบครัว

จากดำเนินฯ วิ่งออกเพชรเกษม ผ่านบางแพ ก็จะพบเจอกับอุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม (Siam Cultural Park) อยู่ทางด้านซ้ายมือ ผมเองก็แวะพาครอบครัวเข้าไปเที่ยวและหัดถ่ายรูปเล่นกัน ซึ่งในบริเวณอุทยานอนุญาตให้ถ่ายรูปได้ ผมกับลูกก็สนุกสนานกันน่ะสิงานนี้

 

แต่พอเข้าสู่พื้นที่อันเป็นอาคารแสดงโชว์ตัวหุ่นขี้ผึ้ง ตรงนั้นเรียกว่า หออัครศิลปิน (Hall Of Fame) ผมก็บอกลูกชายว่า เอาล่ะเข้าสู่บริเวณจัดแสดงแล้วให้ปิดแฟลชเสียก่อน โดยที่ผมเองก็ไม่ทราบว่าที่นี่เค้าห้ามหรือไม่? แต่โดยทั่วไปใน Museum เค้าก็ห้ามอยู่แล้ว ก็เดินกัน 2 คนพ่อลูกถ่ายรูปอะไรต่ออะไรไปเรื่อย ผมถ่ายรูปอยู่ก็จะเรียกบอกลูกไปด้วยว่า อย่าเปิดแฟลชนะครับลูก พร้อมทั้งเสียงรับคำจากเด็กอายุ 8 ขวบดังอยู่เป็นระยะ ทั้งเป็นการคอยเช็คดูด้วยว่าลูกผมยังอยู่ใกล้ๆ หรือเปล่า?

พลันก็เห็นเพื่อนช่างภาพคนนึงคงได้ยินเสียงผมบอกลูก เค้าก็เก็บ External Flash ของเค้าเข้ากระเป๋า แล้วเค้าก็เดินถ่ายรูปต่อโดยไม่ใช้แฟลชอีกเลย ผมเห็นเพราะเราเดินตามๆ กัน ถ่ายรูปกันไปทีละห้องเหมือนกัน ต้องขอบคุณที่ช่วยกันรักษาและปฏิบัติตามกฎระเบียบ ผมรู้สึกชื่นชมช่างภาพท่านนั้นอย่างยิ่ง ทำผิดพลาดแล้วรีบแก้ไขโดยพลันนั่นเป็นสิ่งที่น่ายกย่องครับ

เดินต่อมาถึงอีกห้องหนึ่งผมก็กำลังถ่ายรูปอยู่ พลันก็มีแสงแฟลชแว๊บขึ้นมาจากด้านหลังของผม ก็เลยหันไปบอกว่า No Flash นะครับ ชายหญิงสองคนก็กล่าวคำขอโทษ แล้วก็ไม่เห็นเค้าทั้งสองใช้แฟลชถ่ายรูปด้านในอีกเช่นกัน ผมรู้สึกขอบคุณและเป็นปลื้มกับคุณทั้งสองคนมาก ที่เข้าใจนั่นแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่ดีงามและทัศนคติที่ดีต่อสังคม ไม่มีการโวยวายอารมณ์เสียใดๆ ทั้งสิ้น หากเป็นคนที่ไม่เข้าใจ ผมอาจจะตกที่นั่งลำบากแล้วก็เป็นได้ ผมชื่นชมการกระทำของคุณนะครับ

ถัดมา พอออกจากหออัครศิลปิน เดินมาตามทางด้านนอกเพื่อเข้าไปสู่ถ้ำพระเวชสันดรขาดก ก็พบเจออีกหนึ่งคู่ที่ไม่น่าเอาเยี่ยงอย่าง ทั้งการใช้แฟลช การยืนเกาะคอพิงหุ่นแล้วทำน่ารัก แบบว่าขอโทษนะครับ ป้ายทั้งภาษาไทยและอังกฤษ “ห้ามจับ หรือ Don’t Touch” ก็เห็นอยู่ทนโท่  ไม่อยากเชื่อว่าอ่านหนังสือไม่ออกนะ แต่การให้ความร่วมมือปฏิบัติตามป้ายนี่มันจะสร้างความลำบากและอึดอัดใจให้ท่านมากมายถึงขั้นที่จะทำตามป้ายไม่ได้เลยเชียวหรือ?

หากท่านที่กล่าวมาทั้งสามท่านนั้น ได้มาอ่านโพสนี้ที่บล็อคของผม ก็ต้องขอขอบคุณและแสดงความนับถือและชื่นชมอย่างจริงใจ ที่เป็นส่วนเล็กๆ ในสังคมที่พร้อมร่วมแรงร่วมใจ สร้างวินัยให้กับสังคม แม้วันนี้อาจจะยังไม่เห็นผล แต่การที่เราเริ่มทำจากตัวเราเอง แล้วค่อยๆ ปลูกฝังความคิดดีๆ แบบนี้ไปสู่คนรอบข้างของเรา และส่งต่อความคิดนี้ต่อไปให้ขยายสู่วงกว้าง ไม่ช้านานวินัยในสังคมคงจะมีมากขึ้น สังคมน่าจะดีขึ้นไปอีกในรุ่นต่อๆ ไป หากแต่สองท่านสุดท้ายนั่นก็คงแล้วแต่วิจารณญาณของท่านจะดีกว่า ผมเองคงได้แต่ขอความร่วมมือ มิอาจไปตัดสินเรื่องผิดหรือถูกได้ ได้เพียงหวังว่าสักวันท่านคงได้เข้าใจและหันมาให้ความร่วมมือกันในอนาคต

ผมขอกล่าวโดยรวมในแนวคิดและแนวทางปฏิบัติ มิใช่ถือเอาระเบียบข้อกำหนดเฉพาะของที่นี่ ขอกล่าวถึง Museum โดยรวมทั่วไปเป็น Main นะครับ ให้รู้ไว้ว่า เรากำลังคุยกันในเรื่องของแนวคิดส่วนรวม มิใช่ข้อพูดถึงข้อปฏิบัติเฉพาะของที่นี่ โปรดเข้าใจให้ตรงกันไว้ด้วย เดี๋ยวจะมีพวกมาบอกว่า “ที่นี่กรูเคยไป เค้าไม่ห้ามนี่หว่า เมิงเจือกเดือดร้อนไปเองแล้วมาด่าชาวบ้านเค้าอีก” กลายเป็นมาว่าผมซะอย่างนั้น

กฎระเบียบ มีไว้เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตาม จะเพียงเพื่ออะไรก็ตาม หากแต่เรายอมรับที่จะปฏิบัติตามกฎแล้ว ไม่น่าจะต้องมาสร้างข้อต่อรองในภายหลังที่จะขออยู่เหนือกฎระเบียบดังกล่าว หากเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะกล่าวอ้างเหตุผลที่แสนดีเพียงใด ก็รู้เอาไว้ว่าไม่มีใครชื่นชมการกระทำของคุณหรอก หากเพียงแต่ปฏิบัติตามกฎแล้ว ทุกคนจะยินดีที่ได้คุณมาอยู่ร่วมกันในสังคมแห่งนี้ต่อไป

หวังว่าทุกคนจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนะครับ ใครที่ยังหลงไปกับความคิดที่ผิดพลาด เรารอให้คุณกลับมาอยู่นะ

 

เขียนเมื่อ : วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ.2554 เวลา 14:21 น. GMT+7 THAILAND
ผู้เขียน : Tombass

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น