โพสนี้เป็นการเอาน้อง D5000 ไปยืดเส้นยืดสาย หลังจากไม่ได้ไปไหนกันซะนานเพราะมีภารกิจตลอดไม่ได้มีช่วงว่างๆ ให้พากันไปออกกำลังชัตเตอร์กันเลย กอรปกับช่วงที่ผ่านมาก็มีพายุถาโถมเข้ามาหลายต่อหลายลูก พร้อมกับนำพาเอาสายฝนตกหนักมาเยี่ยมเยือนให้หนาวอกหวั่นใจเล่น กลัวว่าจะเป็นเหมือนปีที่แล้วที่ต้องพากันหนีน้ำกันจ้าละหวั่นกันทั่วทั้งเมืองกรุงฯ หลายจังหวัดในภาคกลางของเราต่างต้องระทมช้ำ กับน้องน้ำที่มาขอผ่านกลางกรุงเพื่อไปลงทะเลที่ปากอ่าวไทย
เอ้า .. พูดมาตั้งเยอะแยะยังไม่เกี่ยวกับโพสวันนี้เลย ก็ขออารัมภบทให้โพสนี้มันยาวๆ เล่นไปซะหยั่งงั้นเอง ก็มันยังกลัวอยู่นี่นา มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
หลังจากอยู่โยงกับบ้านเป็นเด็กดีเพราะไม่มีปัญญาจะออกไปไหนต้องติดฝนทนมานานหลายเดือน ก็รู้สึกว่าร่างกายเกิดความต้องการไปเที่ยวอย่างมาก แต่ยังติดอยู่ที่ว่าฝนยังไม่เว้นช่วงซักไหร่ เลยต้องหาวิธีการบำบัดเพื่อบรรเทาอาการ need ให้เบาบางลงไปบ้าง ไปไหนไม่ได้ก็ออกไปเดินหน้าบ้านนี่แหละ(ว๊ะ) ออกไปรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านอยู่ทุกวัน เห็นดอกบัวบานอยู่ทุกเช้า ไฉนจึงได้มองข้ามผ่านไปได้ล่ะเนี่ยเรา ดอกไม้เป็นสิ่งที่สวยงามอยู่ในตัวเอง สีสันเย้ายวนชวนให้หยิบกล้องออกไปถ่ายภาพสวยๆ ของเหล่าดอกบัวน้อยที่ชูช่อระหงขึ้นมารับแสงแดดอันอบอุ่นของวันดีๆ ที่ไม่ได้มีบ่อยนักในช่วงนี้
ว่าแล้วก็พลันรีบขึ้นไปหยิบน้อง D5000 ตัวเก่งคู่มือคู่ใจที่ร่วมทุกข์สุขกันมาร่วม 3-4 ปี ไปทุกที่ทุกทริปมาด้วยกัน ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ไม่เคยงอแงหรือตายกลางอากาศแต่อย่างใด กลับมาต่อกันเถอะ เดี๋ยวจะออกนอกเรื่องกันไปไกลซะอีก .. พากันลงมาแล้วตรงดิ่งไปที่หน้าบ้านโดยด่วนก่อนที่แดดแรงๆ จะมลายหายกลายเป็นเมฆฝนครึ้มไปซะอีก รีบๆ กดๆๆๆๆๆ ชัตเตอร์ให้ได้มากที่สุด(ทั้งที่มีอยู่ไม่กี่ดอกเท่านั้นแหละ..555+)
ถ่ายดอกบัวคราวนี้ เน้นที่ Close-up ซะมากกว่า ตั้งใจจะลองถ่ายใกล้ๆ ดูบ้าง เพราะปกติก็จะเน้นไปทางถ่ายภาพวิวซะมากกว่าเพื่อนำมาประกอบเรื่องราวในบล็อค การถ่ายภาพคนหรือภาพระยะใกล้นั้นยอบรับโดยดีว่ามีโอกาสได้ถ่ายน้อยมาก การเขียนบล็อคท่องเที่ยวเนี่ย ก็จะเน้นการเก็บภาพบรรยากาศกว้างๆ เพื่อให้ได้เห็นถึงความสวยงามแปลกตาของสถานที่ต่างๆ ที่ไปเที่ยวมาซะมากกว่า ภาพคนก็ไม่ค่อยได้ถ่ายเพราะนายแบบกิติมศักดิ์ก็ถือกล้องไปตะลุยถ่ายรูปนี่โน่นนั่นเหมือนกันเลยไม่ค่อยจะมีเวลามาเป็นแบบให้ บางทีทั้งทริปไปด้วยกันแท้ๆ กลับมีแต่ภาพวิวสถานที่เที่ยวนั้นๆ หารูปเราทั้งคู่กันแทบจะไม่เห็นเลย ต่างคนก็ต่างไปถ่ายมุมที่ชอบของแต่ละคน เอาไว้คราวหน้าต้องจับมาถ่ายรูปคู่กันแบบพ่อลูกเก็บไว้เป็นที่ระลึกบ้างซะแล้ว
คราวนี้ก็เลยขอลองถ่ายแบบ Close-up ดูบ้าง ก็เป็นไปตามคาดเพราะการถ่ายใกล้ๆ ตัวแบบ เป็นการทำให้ระยะชัดในภาพมีน้อยมากตามไปด้วย การขยับตัวเพียงแค่นิดเดียว(จริงๆ) ก็จะทำให้ตำแหน่งที่เราโฟกัสนั้นเปลี่ยนระนาบไปแล้ว ซึ่งทำให้ถ่ายยากเอาเรื่องจริงๆ หากกล้องตัวไหนที่มีระบบเช็คระยะชัดก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง เพราะเราสามารถจะกดปุ่มเพื่อหรี่รูรับแสงให้ไปอยู่ตรงค่าที่เราตั้งไว้ และตรวจสอบผลของระยะชัดที่เราต้องการได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการมืดลงของภาพที่เห็นในวิวไฟน์เดอร์ ซึ่งจะเป็นไปตามขนาดของรูรับแสงที่เราใช้ ก็ต้องหมั่นสังเกตุเอาหน่อยจะชินไปเอง
อีกอย่างนึง ผมต้องขอยอมรับความอดทนของนักถ่ายภาพกลุ่ม Macro/Close-up เลยจริงๆ พับผ่าเถอะ เพราะกว่าจะได้แต่ละภาพนั้นมันแสนจะยากลำบาก ต้องอดทนรอคอยทั้งจังหวะ แสง ลม สภาพอากาศ ฯลฯ ลองนึกดูสิว่า ไปก้มหน้าถ่ายแมลงถ่ายดอกไม้ในทุ่งกว้างท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุที่ทะลุผ่านเสื้อผ้าอาภรณ์ของเราประหนึ่งจะแผดเผาผิวเราให้มอดไหม้ในบัดดล แล้วยังต้องรอจังหวะลมนิ่งเพื่อให้เจ้าดวงดอกไม้นั้นสั่นไหวน้อยที่สุด หรือรออย่างสงบนิ่งให้เจ้าแมลงตัวนั้นตัวนี้หรือตัวน้อยที่เป็นแบบเข้ามาในตำแหน่งที่ต้องการ ทั้งต้องรอแสงแดดที่เข้าทำมุมที่ถูกต้องอีกด้วยเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามดังที่ตั้งใจไว้ เป็นการปรับตัวโอนอ่อนเข้ากับธรรมชาติอย่างแท้จริง มิน่าล่ะ..นักถ่ายภาพกลุ่มนี้จะตัวดำกันซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะต้องตากแดดอย่างยาวนานทั้งวันนี่เอง 555+ นับถือๆๆๆ
ส่วนผมก็คงถ่ายวิว ถ่ายแลนด์สเคปไปเหมือนเดิมแหละ อายุเยอะแล้วสายตาก็ไม่ค่อยดี โอกาสหลุดโฟกัสมีสูงมาก อีกทั้งก้มหน้ากลางแดดนานๆ มีหวังคงเป็นลมเป็นแล้งไปก่อนจะได้ภาพสวยแน่ๆ มันจะพาลไปลำบากเพื่อนฝูงพี่น้องต้องมาปฐมพยาบาลกันซะอีกเปล่าๆ ปลี้ๆ ด้วยประการฉะนี้เลยขอกลับไปถ่ายตามที่ถนัดดีกว่า ได้เข้าหาธรรมชาติเหมือนกัน
แต่สักวันถ้ามีโอกาสอันดี หวังว่าผมคงจะได้มีภาพสวยจากชัตเตอร์กล้องคู่ใจเป็นรูปของเพื่อนตัวน้อยในโลกใบเล็กใบนี้กับเค้าสักครั้ง
เขียนเมื่อ : วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ.2555 เวลา 23:58 น. GMT+7 TH
ผู้เขียน : Tombass
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น