| ตอนที่ 1 | ตอนที่ 2 | ตอนที่ 3 | ตอนที่ 4 |
เอนทรีก่อนทิ้งท้ายกันที่พาไปสำรวจห้องพัก ขนาดห้องไม่ใหญ่นะครับ ประเทศเค้าขนาดพื้นที่ไม่มากเลยต้องใช้เนื้อที่อย่างประหยัด โดยมากจะสร้างให้สูงๆ เอาไว้ก่อนเพื่อใช้พื้นที่บนอากาศให้ได้มากที่สุด บ้านเมืองเค้าเลยมีแต่ตึกสูงเต็มไปหมด ใครมีบ้านหลังใหญ่พื้นที่เยอะๆ นั่นแหละคนรวยจริง
กลับมาเข้าเรื่องของเรากันบ้าง
หน้าลิฟท์ครับ .. / ทางเดินลงไปสถานี Lavender ..
หลังจากเช็คอินเข้าพักที่ V Hotel กันเป็นที่เรียบร้อย พอจะมีเวลานอนเล่น ล้างเนื้อล้างตัวให้สดชื่นนิดหน่อย เพราะว่าอีกเดี๋ยวเราจะออกไปนั่งรถไฟเล่นรอบเมือง Tourist Pass ของเราจะใช้ได้ถึงแค่เที่ยงคืนเท่านั้น โดยมีจุดหมายที่สถานีปลายทาง Marina Bay แต่ว่า MRT สายสีเขียว (EastWest) ที่ผ่านสถานี Lavender ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางที่เราต้องการ ต้องไปเปลี่ยนขบวนเป็นสายสีแดง (NorthSouth) ที่สถานีที่เป็น Interchange ซึ่งก็มีอยู่หลายสถานีเช่น City Hall, Raffle, Jurong East ส่วน Interchange สถานีอื่น ก็จะไปต่อกับ Circle Line (สายสีส้ม) หรือ LRT (สีน้ำเงิน) .. ง่า .. แค่นี้ก็ไปเที่ยวได้ทั่วเมืองแล้วคร๊าบบบบ ..
แล้วจะให้ตรูลงทางไหนดีล่ะ ..ฮึ ..? / อ๋อ .. ก็ลงมาที่เดียวกันนั่นแหละ ..
ส่วนพวกเราก็เลยนั่งรถไฟเล่น ว่าจะไปลงที่ JooKoon อันเป็นสถานีปลายทางของสายสีเขียวที่เรานั่งอยู่นี่แหละ แต่ว่า เอ่อ .. ทำไมมันไกลจัง ใช้เวลานานตั้งเกือบชั่วโมงแล้วก็ยังไม่ถึงซักที เลยเปลี่ยนใจพากันลงที่สถานี Jurong East ดีกว่าจะได้เปลี่ยนขบวนมาขึ้นสายสีแดง (NorthSouth) จากต้นทางแล้วนั่งรถไฟไปรอบเมืองชมบรรยากาศบ้านเมืองของเค้า โดยจะไปลงที่สถานีปลายทาง Marina Bay ได้เลย ก็ดีไปอย่างนะครับ เพราะเราจะได้เห็นการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนด้วย ความนิยมของคนที่นี่ต่อการใช้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะมีสูงมากครับ เพราะระบบได้ถูกวางเครือข่ายมาอย่างดี กระจายได้ทั่วถึงทุกจุดบนเกาะสิงคโปร์ มีการเชื่อมต่อถึงกันหมดทั้งระบบ ทั้งรถไฟฟ้าและรถประจำทาง และที่สำคัญตรงเวลามากจริงๆ
สถานี Jurong East ครับ ไปเปลี่ยนขบวน .. / คนยืนรอกันเยอะเลย มีกระจกกั้นครับ เพื่อความปลอดภัย .. ช่องประตูจะเปิด-ปิดอัตโนมัติเวลารถไฟจอดสนิทแล้ว .. / จะไป Marina Bay ก็ทางนี้เลยครับ ..
สถานี Marina Bay ครับ .. เดินๆๆๆ ตามป้ายไปเลยยย .. / สองข้างระหว่างทางเดิน เต็มไปด้วยร้านค้า คนชอบช็อปปิ้งเดินทั้งวันก็ไม่เบื่อ แล้วก็มีแบบนี้อีกหลายที่หลายสถานีเลยครับ ..
เรามาลงที่สถานี Marina Bay แล้วก็พากันเดินๆๆๆ ไปตามป้าย ขึ้นบันไดเลื่อนโผล่ออกมาก็เจอกับตึก Marina Bay Sand Hotel สูงเด่นเป็นสง่าตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ดูตระการตาเป็นยิ่งนัก พื้นที่ตรงนี้ถูกจัดแต่งให้เป็นสวยงามกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปอีกแห่ง เดินต๊อกๆๆๆๆ ไปตามทาง เห็น Super Tree แต่ไกล ผ่านไปจนถึงริมน้ำก็เจอกับเจ้าแมลงปอโลหะตัวบิ๊กเบิ้มอยู่กลางน้ำ มีบันไดให้นั่งเล่นรอ Super Tree เปิดไฟ ..
โอ้โห .. สูงใหญ่จริงๆ โผล่ขึ้นมาถึงกับตะลึงเลย .. แหงนกันคอตั้งบ่าเลยอ่ะ ..
ค่ำมืดกว่านี้ จะมีคนมายืน-นั่งจับจองพื้นที่ถ่ายรูปกันเต็มไปหมด ตอนที่ผมไปยังไม่มืดเลยหามุมสงบๆ แบบนี้ได้ / Super Tree กับแมลงปอเหล็ก .. ไม่รู้ว่ามันเข้ากันตรงหนายยยย ..
มีทางเดินไปข้ามสะพานเพื่อเข้าไปที่ Super Tree ด้วยนะ แต่ใครจะข้ามไปก็ต้องมีค่าธรรมเนียมกันหน่อย แล้วจะได้ถ่ายรูป Super Tree แบบใกล้ชิดสนิทแนบ เห็นคนไปเดินกันเยอะเต็มสะพาน ถ่ายไปคงเห็นแต่หัวคนเต็มเฟรมไปหมด ตรูถ่ายตรงนี้ก็ได้ฟร๊ะ แล้วก็เดินไปด้านของถนนดูบ้าง ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ห้องพักต่างๆ บนโรงแรมเริ่มเปิดไฟกันแล้ว เลยหันมาเก็บแสงด้านนี้บ้าง ส่วน Super Tree ก็เปิดไปแล้วเหมือนกันเลยได้มาอีกภาพ
ก่อนสงสุดท้ายของวันจะหมดลง อาคารต่างๆ เริ่มเปิดไฟ .. / ที่ Marina Bay Sand Hotel ก็เช่นกัน ..
Super Tree เปิดไฟแล้ว แต่ฟ้ายังไม่มืดสนิท เลยได้มาแค่เนี๊ยะ ขาตั้งกล้องก็ลืมไว้ที่โรงแรมอีก .. เฮ้อ ..
แอบเดินมาอีกด้าน .. ทางฝั่งของถนนบ้าง / ใต้สะพานที่ข้ามเข้าไปที่โรงแรม .. / Marina Bay Sand Hotel ประกบคู่กับ Singapore Flyer
ยิ่งมืดคนยิ่งเยอะ ยุงก็เริ่มแยะตามไปด้วย เพราะมีทั้งน้ำทั้งต้นไม้ต้นหญ้า เลยชวนกันกลับดีกว่า เด็กน้อยเริ่มหิวข้าวแล้ว พากันเดินกลับมาขึ้นรถไฟไปลงที่ City Hall แล้วเปลี่ยนขบวนเพื่อกลับมาลงที่ Lavender เพื่อจบรายการวันนี้โดยฝากท้องเอาไว้ที่ร้าน Kopitiam หน้าทางขึ้นจากสถานีนั่นแหละ
KOPITIAM .. สามวันฝากท้องไว้ที่นี่ทุกมื้อ มีให้เลือกหลายร้านตามใจชอบ สะดวกดี อร่อย สะอาดและไม่แพงมาก ถ้าได้มาพักอยู่แถวนี้ก็ขอแนะนำเลย ..
ราคาอาหารคาวหวานก็อยู่ในระดับพอๆ กันคือ 3-5 เหรียญ น้ำก็ 1-2 เหรียญ ขอบอกเมืองนี้น้ำเปล่าราคาแพงมาก ขวดขนาด 500 cc. ราคาต่ำสุดเท่าที่หาได้ในย่านที่เราพักจะอยู่ที่ราคา 1 เหรียญหรือประมาณ 25 บาท (แพงกว่าที่บ้านเราเยอะเลย) ส่วนถ้าคิดจะหาขวดขนาดใหญ่แบบ 1.5 ลิตรอย่างบ้านเรา ผมหาไม่เจอเลยซักร้านเดียวแม้กระทั่งใน 7-11 ก็เถอะ ใครมาทำธุรกิจน้ำเปล่าบรรจุขวดที่นี่ท่าทางจะขายดีเนอะ ..
ปิดท้ายด้วย Night City Scape แล้วกันนะครับ ..
หมดโปรแกรมสำหรับวันแรกแล้ว พักผ่อนกันให้เต็มที่ พรุ่งนี้มี City Tour, Sentosa, Universal Studio Singapore, Singapore Flyer แล้วปิดท้ายที่ Helix Bridge โปรแกรมเที่ยวเต็มทั้งวันแน่ๆ เอนทรีนี้สั้นหน่อยนะครับ ถ้าเขียนยาวมากเดี๋ยวเพื่อนบล็อคจะเบื่อกันซะก่อน
พบกันอีกทีในเอนทรีต่อไปครับ
ไปอ่านรวดเดียวจบใน Forum ที่ลิ้งค์นี้ครับ ..
ส่วนรูปภาพเพิ่มเติมก็ไปตามลิ้งค์นี้ครับ ..
https://plus.google.com/u/1/photos/103736898918551133698/albums/5865894329041429713?partnerid=gplp0
ขอบคุณเพื่อนบล็อคทุกท่าน ที่ติดตามรับชมกันตลอดมาครับ ..
| ตอนที่ 1 | ตอนที่ 2 | ตอนที่ 3 | ตอนที่ 4 |
เขียนเมื่อ : วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2555 เวลา 16:10 น. GMT+7 TH
ผู้เขียน : Tombass
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น